คอมมานโดจับเพิ่ม แก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่นักธุรกิจไต้หวัน พบตำรวจร่วมก่อเหตุ

ภายใต้การอำนวยการของ  ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.อ.บุญฤทธิ์ ศรีวิจิตร รอง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.อ.สุรชัจ สีมุเทศ ผกก.4 บก.ปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.ท.วัฒนพล กาญจนเสถียร พ.ต.ท.ธนทร รุ่งจิรพงษ์ รอง ผกก. 4 บก.ปฏิบัติการพิเศษ

สั่งการให้  พ.ต.ต.ไพบูลย์ พิมพ์กำเนิด สว.กก.4 บก.ปฏิบัติการพิเศษ ส.ต.ต.ธงชัย ศรีคำแซง ,ส.ต.ต.คุณวุฒิ พรมมาลา ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปฏิบัติการพิเศษ จับกุมตัว

จับกุมตัว :  นายอธิวัฒน์ หรือต่อ จันทร์พจน์ อายุ 27 ปี

ตามหมายจับ :  ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 395/2564  ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2564                 

ความผิดฐาน : “ ร่วมกันเรียกค่าไถ่, พยายามฆ่า, อั้งยี่, ซ่องโจร, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการใด หรือยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้านจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธ ร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือซ่องโจร ไม่ว่าอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้นจะมีอยู่หรือไม่, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ”

พฤติการณ์ในคดี : สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบปราม ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเจเรมี่ แมนเชสเตอร์ และ นายลูอิส ซิสกิน สองผู้ต้องหาสัญชาติอเมริกัน และผู้ต้องหาชาวไทยอีกหลายคน ในข้อหาร่วมกันเรียกค่าไถ่, พยายามฆ่า, อั้งยี่, ซ่องโจร, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการใดโดยใช้กำลังประทุษร้ายและมีอาวุธฯ หลัง นายเวน ยู ชุง ชาวไต้หวันซึ่งเป็นตัวแทนนักธุรกิจจำหน่ายถุงมือยางทางการแพทย์เข้าแจ้งความกับตำรวจ ว่า ถูกอุ้มไปรีดค่าไถ่ เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา ชนวนเหตุเกิดจากการที่ นายลูอิส หนึ่งในผู้ต้องหาทำธุรกิจซื้อขายถุงมือ กับบริษัทของ นายเวน ยู ชุง แล้วเกิดความเสียหายจำนวนเงินถึง 93 ล้านบาท

สำหรับวันเกิดเหตุ ขณะที่ นายเวน ยู ชุง นั่งรับประทานอาหารอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ ได้ถูกคนร้ายร่วมกันจับใส่กุญแจมือ พาตัวไปยังห้องพักรายวันที่อยู่ห่างไป 200 เมตร ก่อนจะใช้โทรศัพท์ติดต่อไปเรียกค่าไถ่จากนายจ้างเป็นเงิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเรียกค่าไถ่จากญาติของ นายเวน ยู ชุง อีก 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ญาติเห็นท่าไม่ดี จึงติดต่อไปขอความช่วยเหลือยังสถานทูตให้ประสานตำรวจ กลุ่มผู้ต้องหาจึงยอมปล่อยตัว จนนำมาสู่การออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุจำนวนหลายคน

ภายหลังการออกหมายจับตำรวจคอมมานโดได้มีการสืบสวนผู้ต้องหาจนกระทั่งสามารถเข้าทำการจับกุม ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“สยบทุกข์ภัย รับใช้ปวงประชา”